ข่าวกีฬาฟุตบอล

เว็บไซต์กีฬาอันดับ 1 อัพเดทข่าวสารวงการกีฬา ฟุตบอล ผลบอล ฟุตบอลวันนี้ ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก กัลโช่ บุนเดสลีกา ลา ลีกา ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ยูฟ่าคัพ ไทยลีก เจลีก

แจ็ควิลเชียร์ กับการยุติเส้นทาง บนถนนสายลูกหนัง ก่อนวัยอันควร

แจ็ควิลเชียร์

แจ็ควิลเชียร์ ดาวรุ่งมากพรสวรรค์ ที่มาพร้อม กับความคาดหวัง ของวงการฟุตบอลอังกฤษ

แจ็ควิลเชียร์ หรือชื่อเต็ม แจ็ก แอนดรูว์ แกร์รี วิลเชียร์ เด็กหนุ่มชาวอังกฤษ ที่เกิดและเติบโต ที่เมือง สตีเวนิจ ฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ทางภาคตะวันออก ของอังกฤษ Jack Wilshere ก็เหมือนกับเด็กหนุ่ม ทั่วๆไป ที่หลงรักในกีฬาฟุตบอล มาตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก 

ผ่านการเป็นนักฟุตบอล มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถม จนถึงชั้นมัธยม จนถึงการเริ่มติดทีมชาติ ในชุด U15 รุ่นเดียวกับ เว ล เบ็ ค จนกระทั้ง ในปี 2001 แจ็ควิลเชียร์ เริ่มก้าวเข้าสู่ อะเคเดมี่ ของสโมสร อาร์เซน่อล ด้วยวัยเพียง 9 ขวบ และนั้นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้แฟนบอล ได้รู้จักกับ ยอดมิดฟิลด์ อนาคตไกลรายนี้

หลังจากฝึกปรือฝีเท้า อยู่ในสถาบันลูกหนัง ของอาร์เซน่อล อยู่หลายปี ผ่านการแข่งขัน ในหลายๆรายการ และคว้าแชมป์ มาอย่างมากมาย ในระดับเยาวชน จนกระทั้งในปี 2008 ซึ่งในขณะนั้น วิลเชียร์ที่กำลัง อยู่ในช่วงวัยรุ่น ด้วยวัยเพียง 16 ปี

พร้อมกับการ ก้าวขึ้นไป ติดทีมชาติ อังกฤษชุดใหญ่ จนกลายเป็นความหวังใหม่ ของเหล่าแฟนบอลอิงแลนด์ บทความฟุตบอล ที่น่าสนใจ วันนี้ขอนำเสนอ เรื่องราวในเส้นทาง การค้าแข้ง ของดาวรุ่งรายนี้ จากจุดพีคสุดของอาชีพ จนถึงจุดที่เรียกได้ว่า ตกต่ำที่สุด ของอาชีพการค้าแข้ง ของนักเตะรายนี้กันครับ

ได้รับโอกาส จากอาแซน เวนเกอร์ เพื่อก้าวขึ้นสู่ ทีมชุดใหญ่ 

แจ็ควิลเชียร์

อาร์แซน เวงเกอร์ ตำนานกุนซือของทีม ชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอล ได้เรียกดาวรุ่งของทีมรายนี้ ให้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ของทีมเดอะกันเนอร์ ในยุคนั้น แจ็ ก วิ ล เชียร์ stats เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ของขุมกำลัง ที่จะใช้ลุยศึก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2008-2009

ในฤดูกาลนั้นเอง แจ็ควิลเชียร์ มีโอกาสลงสนาม ให้กับทีมชุดใหญ่ ในเกมลีกไปทั้งหมด 8 เกมในทุกรายการ พร้อมกับผลงาน ที่ทำให้เจ้าตัว ได้รับการยกย่อง ว่านี่คืออนาคต ของวงการฟุตบอลผู้ดี และทีมชาติอังกฤษ เลยทีเดียว

ด้วยสไตล์การเล่น ที่มาพร้อมกับความดุดัน บวกกับความแข็งแกร่ง และความคล่องตัว ตามแบบฉบับ นักเตะ ตำแหน่งมิดฟิลด์สมัยใหม่ ชนิดที่เรียกได้ว่า ไม่เหมือนกับเด็ก ในวัย 16 ปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งตำนานกองหลังของทีมอย่าง มา ร์ ติ น. คี โอ ว์ น. wiki ได้กล่าวไว้ 

หลังจากจบฤดูกาลนั้น อาร์แซน เวงเกอร์ ได้ส่งวิลเชียร์ ไปเก็บเกี่ยว ประสบการณ์ พร้อมกับเพิ่มความแข็งแกร่ง กับสโมสร โบลตัน วันเดอร์เรอร์ ทีมร่วมลีกในซีซั่นนั้น ตลอดเวลากับโบลตัน วิลเชียร์ ได้รับโอกาส ลงสนามไปทั้งหมด 14 เกม พร้อมกับยิงได้ 1 ประตู

ซึ่งหลังจาก จบฤดูกาลนั้น เวนเกอร์เอง จึงเรียกตัว แจ็ควิลเชียร์ กับมาเป็นกำลังหลักของทีม หลังจากผ่านการ สั่งสมประสบการณ์ จนแข็งแกร่งขึ้น ต่อจากนั้น ก็คือจุดเริ่มต้น ในเส้นทางการรับใช้ สโมสร ไอ้ปืนใหญ่ ที่ได้กลายมาเป็นตัวหลัก ในแผงกลางของทีม ชนิดที่เรียกว่า ทีมจะขาดไม่ได้ เลยทีเดียว

แจ็ควิลเชียร์ การก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก ของสโมสร และช่วงที่มีฟอร์มการเล่น ที่ดีที่สุด ในอาชีพการค้าแข้ง

แจ็ควิลเชียร์

หลังจากก้าวขึ้นมา สู่ทีมชุดใหญ่ อย่างเต็มตัวในฤดุกาล 2010 – 2011 พร้อมกับได้รับโอกาส ลงสนามไปอย่างมากมาย ถึง 35 นัด พร้อมกับทำได้ 1 ประตู ในปีนั้น ถ้าจะเรียกได้ว่า เป็นปีที่ แจ็ควิลเชียร์ โชว์ฟอร์ม พร้อมกับทำผลงาน ได้ยอดเยี่ยมที่สุด ก็คงไม่ผิดนัก สิ่งที่ช่วยเป็นเครื่องยืนยัน คงดูได้จาก

การได้รับโอกาส ลงสนามอย่างมากมาย ของเจ้าตัวในซีซั่นนั้น การได้เล่นร่วมกับ นักเตะในแผงกลางของทีม ที่มีสไตล์การเล่น ใกล้เคียงกันในยุคนั้น อย่าง เชส ฟราเบกาส, ซาร์มีร์ นาสรี่, เดนิลสัน ล้วนแล้วแต่ เป็นตัวสนับสนุน ให้วิลเชียร์นั้น ทำผลงานออกมาได้ อย่างยอดเยี่ยม

กับเกมคืนนั้น ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2010-2011 นัดที่อาร์เซน่อล เปิดสนาม อมิเรสสเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน ของโครตทีมแห่งยุคสมัยนั้น อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ช่วงนั้นอุดมไปด้วย เหล่านักเตะระดับโลก ที่กำลังอยู่ในช่วงพีคสุดของอาชีพ อย่าง อันเดรียส อิเนียสต้า, เซร์จิโอ บุสเกตส์, ชาบี เฮอร์นันเดส และแน่นอน ลีโอเนล เมสซี

ภายใต้การคุมทัพของ เป็ป กวาดิโอล่า กับสไตล์ฟุตบอล เท้าสู่เท้า หรือ Tiki-Taka อันลือลั้น ที่กำลังครองโลกในยุคนั้น ในเกมคืนนั้น หากไม่นับแสงสปอร์ตไลฟ์ ที่จับจ้องไปที่เหล่านักเตะบาร์ซ่าแล้ว ในฝั่งทีมเจ้าถิ่น มีเด้กหนุ่มวัย 19 ปี ที่กำลังวาดลวดลาย ในสนามได้อย่าง น่าตื่นตาตื่นใจ 

เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือ แจ็ควิลเชียร์ นั้นเอง ที่ได้รับโอกาส จากเวนเกอร์ กับเกมที่มีความสำคัญเช่นนี้ เขาเล่นอย่างไม่มีความตื่นกลัว และชาญฉลาด ทะลุทะลวงขึ้นหน้า ประสานงานร่วมกับ เชส ฟราเบกาส ได้อย่างลื่นไหล ตามสไตล์ฟุตบอล ของเวนเกอร์

ช่วงเวลานั้น เขาทำให้เหล่า ซุปตาร์ของทีมเจ้าบุญทุ่ม ต้องเจอกับความยากลำบาก และบทสรุปของเกม ก็เป็นไอ้ปืนใหญ่ แซงเอาชนะผู้มาเยือน ไปอย่างสุดมัน 2-1 หลังจบเกม แม้กระทั้ง ชาบี เฮอร์นันเดส ยอดกองกลางของบาร์ซ่า ยังออกมายอมรับเลยว่า วิลเชียร์นั้น เล่นได้อย่างสุดยอด ในเกมคืนนี้ 

นั่นคือช่วงเวลา ที่เรียกได้ว่า เป็นเวลาที่เหล่าแฟนบอล ได้เห็นวิลเชียร์ในร่างทองมากที่สุด พร้อมกับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี ก่อนที่ทุกอย่าง มันเหมือนจะเปล่งประกาย อยู่เพียงคู่เดียว ก่อนที่มันจะค่อย ดับวูบลง

อาการบาดเจ็บรุนแรง ที่เป็นจุดเปลี่ยน ของชีวิตการค้าแข้ง ซึ่งมันส่งผลร้ายกว่าที่คิด

แจ็ควิลเชียร์

อาการบาดเจ็บเรื้อรัง เป็นต้นเหตุหลัก ที่ทำให้นักฟุตบอลชื่อดัง จำนวนมากมาย ต้องยุติเส้นทางอาชีพ ก่อนวัยอันควร นั้นรวมไปถึง แจ็ควิลเชียร์ ด้วยเช่นกัน หลังจากเป็นกำลังหลัก ให้กับทัพปืนใหญ่ อยู่นานถึง 8 ปี วิลเชียร์ ได้ย้ายไปร่วมทีม บอร์นมัธ ในปี 2016 

หลังจากเจ้าตัว เริ่มมีปัญหา อาการบาดเจ็บรบกวน จนต้องเสียตำแหน่งตัวจริง กับทีมปืนใหญ่ไปให้กับ นักเตะใหม่อย่าง โอ ซิ ล แต่อาการบาดเจ็บ รอยร้าวที่กระดูกข้อเท้านั้น ทำให้หลังจากนั้น เขาก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกเลย

อาการบาดเจ็บ ทำให้เขาแทบจะไม่ได้ลงเล่นเลย ตลอดทั้งฤดูกาล กับบอร์นมัธ ในพรีเมียร์ลีก อาการบาดเจ็บนี้ มีส่วนให้พัฒนาการฟุตบอลของเขา ต้องหยุดชะงักลง มันเริ่มมาตั้งแต่ สมัยที่ยังอยู่กับ เดอะกันเนอร์แล้ว ซึ่งมันส่งผลร้ายแรง กว่าที่คาดคิดเอาไว้มาก

แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้น วิลเชียร์เอง ช่วงที่พักรักษาตัว เจ้าตัวยังมีปัญหา เกี่ยวกับความประพฤติ ที่เกิดขึ้นนอกสนาม จากการติดบุหรี่ ดื่มเหล้า รวมถึงพฤติกรรมอื่นๆอีก เหล่านี้ มันทำให้เขาต้องถุกปล่อยตัว ออกจากทีม บอร์นมัธ และแทบที่จะหาสังกัดใหม่ไม่ได้เลย

เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา และคงไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยง กับนักเตะ ที่บาดเจ็บบ่อย และพฤติกรรมไม่ดีเช่นนี้อีก ซึ่งสโมสรสุดท้ายของเจ้าตัว ในอาชีพนักฟุตบอล คือทีม อาร์ฮุส ในลีกเดนมาร์ก เมื่อช่วงต้นปี ก่อนที่สุดท้าย เจ้าตัวจะตัดสินใจ แขวนสตั๊ด ในวัย 30 ปี ผ่านทาง Jack wilshere ig

ตลอดช่วงชีวิตการค้าแข้ง ความสำเร็จที่เจ้าตัวได้รับจาก อา ร์ เซ น. อ ล วิ กิ  แชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2013/14 และ 2014/15 แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2014 รองแชมป์ ลีก คัพ 2010/11 และ 2017/18 โดยติดทีมชาติอังกฤษไปทั้งหมด 34 นัด ทำได้ทั้งหมด 2 ประตู

เรียบเรียงโดย บังบ้าบอล