ข่าวกีฬาฟุตบอล

เว็บไซต์กีฬาอันดับ 1 อัพเดทข่าวสารวงการกีฬา ฟุตบอล ผลบอล ฟุตบอลวันนี้ ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก กัลโช่ บุนเดสลีกา ลา ลีกา ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ยูฟ่าคัพ ไทยลีก เจลีก

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ หายไปไหน

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ ชีวิตหลังย้ายออกจาก พรีเมียลีก

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ อดีตกองหน้าของ ลิเวอร์พูล ในยุคของ เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากแยกทางกับทีมในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ระหว่าง เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับเป็นเกมที่มีความพิเศษสำหรับ ดาเนียลสเตอร์ริด

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์

สเตอริด หายไปไหน ดาวยิงรายนี้เริ่มต้นโดยการเป็นเด็กปั้นของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะย้ายทีมแล้วมาแจ้งเกิดในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยความสามารถที่เขามี เขาน่าจะเป็นหนึ่งในนักเตะทีมใดทีมหนึ่งในสองทีมนี้ได้ เพื่อไล่ล่าความสำเร็จให้กับตัวเขา แต่ในปัจจุบัน ดาวเตะชุดแชมป์ยุโรป 2 สมัยรายนี้ กลับถูกตั้งคำถามว่าเขายังสามารถกลับมาลงเล่นฟุตบอลอาชีพได้อีกครั้งหรือไม่?

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ กับการกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง

ณ จุดนั้น เป็นเวลานานกว่าหนึ่งปีเข้าไปแล้วนับตั้งแต่ ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ ลงสนามฟุตบอลอาชีพ ซึ่งดูเหมือนตอนนี้เขามีความสุขกับชีวิตดี ๆ ที่สหรัฐอเมริกา ทว่าอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ประกาศว่าเขาจะกลับมาลงสนามให้ได้อีกครั้ง และเขาทำได้ เขามีแรงกระตุ้นอย่างเต็มเปี่ยมในการกลับมาลงเล่นฟุตบอลอีกครั้ง เขาโพสต์วิดิโอตัวเขาซุ่มซ้อมคนเดียวอย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย คาดหวังจะกลับมาเล่นในฤดูกาล 2021/22

มีการพูดคุยกันถึงการย้ายไปเล่นในสเปน โดยมีทีม เรอัล มายอร์ก้า ที่ประกาศว่านักเตะจะเดินทางไปซ้อมกับทีม ทว่า ต้องรอจนถึงเดือนตุลาคม 2021 ก่อนที่ ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ จะได้เซ็นสัญญากับสโมสร แต่เขาไปไกลถึงออสเตรีเลีย ในการย้ายไปเล่นกับ เพิร์ธ กลอรี ทีมในเอลีก

“มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการมองหาความท้าทายครั้งใหม่” สเตอร์ริด เผยกับเว็บไซต์สโมสร

“เมื่อโอกาสเข้ามาถึง มันรู้สึกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เหมาะสม แสดงพรสวรรค์ในที่ ๆ ผมจะสามารถสนุกกับฟุตบอลในลีกที่แข็งแกร่ง และพยายามช่วยทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ เริ่มต้นอีกครั้งกับ Perth Glory FC

ซึ่งดีลย้ายทีมครั้งนี้ราวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฟุตบอลออสเตรเลีย โทนี เซจ ประธานสโมสรของ เพิร์ธ เผยว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาเนียล ไม่ใช่แค่หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ กลอรี แต่ในประวัติศาสตร์ของเอลีกด้วย”

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์

“การมาถึงของเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะนำความสำเร็จที่ยั่งยืนมาสู่สโมสร และกรอบเวลาที่เราจะบรรลุเป้าหมายนั้น”

ทว่า การได้ลงสนามเพียง 6 นัด รวม 138 นาที โดยไม่มีประตูเลย พร้อมกับอาการบาดเจ็บหนักไม่ใช่สิ่งที่ เซจ คาดคิดเอาไว้ แต่นั่นแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของทีมจากลีกออสเตรเลียแล้ว ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ ไม่เคยลงสนามมากกว่า 45 นาทีต่อหนึ่งเกม ขณะที่เขาทำได้เพียงแอสซิสต์เดียวเท่านั้นจากเกมพบ เวสต์เทิร์น ซิดนีย์

ฤดูกาลนั้นของ กลอรี จบลงในตำแหน่งบ๊วยของลีก 12 ทีมเป็นหนแรก โดยชนะเพียง 4 นัดเก็บได้ 18 คะแนนจาก 26 เกม ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่สโมสรจะมองสถานะของ ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ ก่อนฤดูกาลของพวกเขาจะจบลงเสียอีก

“มันน่าผิดหวัง เรามีความหวังว่าจะใช้ประสบการณ์ของเขา มาช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เป็นแบบที่ตั้งไว้” โทนี พิคนาต้า เผย หัวหน้าผู้บริหารของทีมเผย

“จากมุมมองทางการตลาด เกมแรก เรามีแฟนบอลเข้ามาชมถึง 24,000 คนเพื่อมาดูเขาย้ายมาร่วมทีม ทุกคนตื่นเต้น ทว่าโชคไม่ดีที่เขาบาดเจ็บ”

“ปีหน้าเหรอ? ผมไม่แน่ใจว่าเราจะยื่นสัญญาใหม่ให้กับเขา”

อันที่จริง สเตอร์ริด ไม่ได้มีส่วนมากมายกับฤดูกาลที่เหมือนกับฝันร้ายของ กลอรี ด้วยข้อบังคับควบคุมโควิด-19, อาการบาดเจ็บ, ปัญหาการเงิน และการบริหารจัดการ นำมาสู่ความล้มเหลวของทีม ทำให้พวกเขาไม่ชนะ 16 เกมติดต่อกันซึ่งนานร่วม 2 เดือน โดยที่ สเตอร์ริด พลาดลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม เขาเป็นเหมือนเครื่องบ่งชี้ความล้มเหลวของ เพิร์ธ ที่ลงแรง ลงเงิน ไปมากมายแต่มันกลับได้ผลรับที่ตรงกันข้ามออกมา ยังไม่รวมโควิด-19 ด้วยผลตรวจเป็นบวกทำให้ ดาเนียลสเตอร์ริดจ์ ต้องแยกออกจากเพื่อนร่วมทีม และต้องเข้ากักตัวถึง 2 ครั้งในช่วงเวลา 3 เดือนแรกของเขาที่ออสเตรเลีย

นี่เป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่ขวางการกลับมาลงสนามของเขาในช่วงหนึ่งปีกว่า ซึ่งมันส่งผลต่อสภาพร่างกายและความฟิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทำให้แฟนบอลเริ่มไม่พอใจ ด้วยผลงานที่สวนทางกับความคาดหวังจากชื่อเสียงอันโด่งดังของเขา โดยมีการมองว่าเขาไม่ทุ่มเทให้ทีมมากพอ

ปลายเดือนพฤศจิกายน ทาง พิคนาต้า เคยออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องที่ สเตอร์ริดจ์ เลือกที่จะไม่ลงสนาม หลังจาก เซจ เผยว่าอดีตแนวรุกหงส์แดงขอถอนตัวจากเกมพบ เวสต์เทิร์น ยูไนเต็ด หลังมีผลกระทบจาการบินไฟล์ทนาน 4 ชั่วโมงมาเมลเบิร์น ขณะที่กุนซือของทีมอย่าง ริชาร์ด การ์เซีย ได้เผยว่า สเตอร์ริดจ์ มีปัญหาโคนขาหนีบ กำเริบมาจากเกมที่พ่ายต่อ แม็คอาเธอร์ 0-1 ซึ่งเป็นผลมาจากการเตรียมพร้อมร่างกายอันย่ำแย่ของนักเตะ

ดาเนียลสเตอร์ริดจ์

“ผมพยายามดึงเขากลับมา แต่เขาก็ร่วงลงไปอีกครั้ง ผมคุยกับเขาช่วงพักครึ่ง เขาวอร์มอย่างลวก ๆ บางทีเขาอาจไม่มีเวลาอบอุ่นร่างกายมากพอ”

ทางด้านโซเชียลมีเดียของเขา ตอนแรกทวีตแสดงความตื่นเต้นยกใหญ่ในการย้ายมาเล่นในออสเตรเลียในช่วง 1-2 เดือนแรก แต่ทว่าเขาไม่เคยพูดถึง เพิร์ธ กลอรี อีกเลยนับตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ มีเพียงการโพสต์ถึงแต่การลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล

ไม่แปลกใจเลยที่ สเตอร์ริดจ์ จะเล่นในออสเตรเลียเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากถามว่าแชมป์ UCL 2 สมัยรายนี้จะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งหรือไม่? บางทีคำตอบอาจจะแตกต่างออกไปแล้วในครั้งนี้

ความทรงจำ “หงส์ กับ สเตอร์ริดจ์”

  • จับคู่ร่วมงานกับ ซัวเรซ ยิงจนคว้ารองดาวซัลโว ฤดูกาล 2013-14 โดยถูกยกให้เป็นหัวหอก SAS หรือ Suarez and Sturridge โดยมีตัวสำรองคอยสนับสนุนอย่างราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ ดิ วอ ค โอ ริ กี้ ซึ่งในขณะนั้น สเตอร์ลิง ยังเป็นแค่ตัวสำรองอยู่ ในปีนี้ซัวเรซยิงไปกระจุย 31 ลูก ขณะที่สเตอร์ริดจ์ก็ไม่น้อยหน้า ยิง 21 ลูก เป็นรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก สเตอร์ริดจ์ยิงประตูได้ต่อเนื่อง จนถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล และถือเป็นนักเตะหงส์แดงคนที่ 4 ในยุคพรีเมียร์ลีก ที่ซัลโวถึงหลัก 20 ลูกต่อหนึ่งซีซั่น นับเป็นปีที่สุดยอดของเขากับลิเวอร์พูล
  • สังหารประตูชัยนัดชิงยูฟ่า ยูโรป้าลีก แม้ลิเวอร์พูล จะไม่ชนะนัดชิงยูฟ่า ยูโรป้าลีก ในฤดูกาล 2015-16 พวกเขาแพ้เซบีญ่าไป 1-3  อย่างไรก็ตาม ประตูขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรกของสเตอร์ริดจ์ น่าจะติดอยู่ในใจแฟนบอลไปอีกนาน  เหตุการณ์เกิดขึ้นนาทีที่ 35 สเตอร์ริดจ์ได้บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจะสับยิงด้วยข้างเท้าด้านนอก บอลโค้งเสียบตาข่าย ชนิดที่นายทวารเซบีญ่าก็คาดไม่ถึง นี่เป็นประตูที่แสดงให้เห็นถึงทักษะล้วนๆ และเป็นลูกที่สวยที่สุดในเกม แม้สุดท้ายลิเวอร์พูลจะไม่ชนะก็ตาม
  • โขกประตูชัยแมนฯยูไนเต็ด , เกือบซัดแฮตทริกเอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาล 2013-14 เป็นปีที่แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เล่นได้ท็อปฟอร์มมากๆ เขายิงประตูในเกมสำคัญอย่างต่อเนื่อง  นัดที่ 3 ในแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนฯยูไนเต็ด เป็นเขาที่สะบัดโหม่งประตูชัยให้ หงส์แดง ชนะไป 1-0  รวมถึง เกมเจอเอฟเวอร์ตัน ที่แอนฟิลด์ สเตอร์ริดจ์ ระเบิดฟอร์มร้อน ยิงไป 2 ลูก และเกือบซัดแฮตทริกได้ด้วย ถ้าเขาไม่ยิงจุดโทษข้ามคานไป ก่อน มา เน ยิง ปิดท้ายให้ทีมเอาชนะไปได้ สเตอร์ริดจ์ ถือเป็นหัวหอกที่ไว้ใจได้ ในเกมใหญ่ เขามักทำผลงานได้คงเส้นคงวามากๆยามฟอร์มพีก

ติดตามบทความกีฬาอื่นได้ที่ บทความฟุตบอล ที่น่าสนใจ

Alvaro