ข่าวกีฬาฟุตบอล

เว็บไซต์กีฬาอันดับ 1 อัพเดทข่าวสารวงการกีฬา ฟุตบอล ผลบอล ฟุตบอลวันนี้ ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก กัลโช่ บุนเดสลีกา ลา ลีกา ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ยูฟ่าคัพ ไทยลีก เจลีก

โลกกีฬา กีฬา เกี่ยว กับ รถ การแข่งรถ F1 เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton)

โลกกีฬา

โลกกีฬา ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) นักแข่งรถยนต์ ระดับโลก F1 เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย

โลกกีฬา กีฬาทั่วโลกมีอะไรบ้าง กีฬา เกี่ยว กับ รถ ถ้าพูดถึง การแข่งรถ F1 ไอคอลที่เปรียบเสมือนการเป็นตัวแทน และสัญลักษณ์แห่ง วงการแข่งรถ หลาย ๆ คน คงนึกถึง นักแข่งรถยนต์ ระดับโลก ชาวเยอนมัน มิเชล ชูมัคเกอร์ (Michael Schumacher) สังกัดทีม Ferrari ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน ประวัติกีฬา นักแข่งรถ f1

เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัยติดต่อกัน ยากที่ใครจะโค่นได้ ยกเว้นเขาคนนี้ ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) นักแข่ง f1 ที่เก่งที่สุด ชาวอังกฤษ สังกัดทีม Mercedes AMG Petronas F1 Team บทความกีฬาที่น่าสนใจ

โลกกีฬา

โลกกีฬา เส้นทางนักแข่งรถลูอิส แฮมิลตัน

ลูอิส แฮมิลตัน เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1985 เมืองสตีเวนิจ ฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ จากจุดเริ่มต้นลูอิส กับพ่อของเขา มักจะชอบดุการแข่งขันรถ รถแข่ง f1 ด้วยกันเสมอ ตั้งแต่เจ้าตัวอายุได้เพียง 5 ขวบ พ่อของลูอิสต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเลี้ยงลูกชายในแต่ละวัน

การจะหาของขวัญมาให้กับลูอิสสักหนึ่งชิ้น ต้องทำงานเลือดตาแทบกระเดน แต่แล้ววันนึงพ่อของลูอิสได้เจียดเงินซื้อ รถบังคับวิทยุ ให้เป็นของขวัญวันเกิด ตั้งแต่บัดนั้นทำให้ลูอิสหลงเสน่ห์ในความเร็วมาตั้งแต่ตอนนั้น และดูเหมือนว่าการแข่งรถจะเป็นทั้งหมดของชีวิตเลยก็ว่าได้

เส้นทางการเป็น นักแข่งรถ ของชายคนนึงกว่าจะมาถึงจุดสูงสุดนั้นไม่ง่ายเลย แฮมิลตันต้องเผชิญอุปสรรคมานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสรรคทางชนชั้น ซึ่งเจ้าตัวมาจากชนชั้นแรงงาน พ่อและแม่ของเขาแยกทางกัน จึงทำให้สถานะของครอบครัวเขานั้นไปได้ไม่ดีนัก

การที่ชื่นชอบในกีฬาราคาแพงอย่างรถแข่ง แน่นอนว่าจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่มหาศาล แต่ด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูก แอนโทนี แฮมิลตัน ก็ไม่เคยนึกน้อยใจ และหมดหวังในโชคชะตา มุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ลูกชายได้แข่ง รถโกคาร์ท แม้จะมีหลายครั้งที่เขาหาเงินไม่พอให้ลูอิสได้ไปแข่งได้จริง ๆ

ด้วยความทุ่มเทของพ่อ ทำให้ลูอิสยกย่องพ่อของเขามาโดยตลอด ว่าเป้นยอดวีรบุรษ และเป็นคนสำคัญต่อชีวิต ที่ทำให้ลูอิสได้ก้าวขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดในการเป็น นักแข่งรถระดับโลก แม้ว่าลูอิสจะคว้าแชมป์โลกมาครองได้หลายสมัย ลูอิสก็ไม่เคยลืมพ่อของเขาเลย

พร้อมกับจะให้สัมภาษณ์ถึงพ่อของเขาทุกครั้งที่มีโอกาส ลูอิส แฮมิลตันใช้เวลาฝึกซ้อมในการแข่งรถโกคาร์ทได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ก่อนจะลงแข่งขันครั้งแรกด้วยวัยเพียง 8 ขวบ และดูเหมือนว่าลูอิสจะเกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ เจ้าตัวได้คว้าแชมป์ครั้งแรกในการแข่งรถมาครองได้สำเร็จ

จบการแข่งขันเด็กน้อยลูอิสรู้ดีว่าความฝันของเขา คือการได้เป้นแชมป์โลก ความมั่นใจและความกล้า ได้ทำให้ลูอิสตัดสอนใจเดินเข้าไปคุยกับ รอน เดนนิส (Ron Dennis) หัวหน้าทีมแข่งรถ McLaren ว่าผมต้อวการแข่งรถให้กับคุณ ซึ่งตอนนนั้นลูอิสมีอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น

จากนนั้นในอีก 3 ปี ลูอิสก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัดทีม McLaren และ Mercedes Benz ในโครงการสนับสนุนนักแข่งรุ่นใหม่ และประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการแข่งรถ F1 ก็ได้เริ่มเต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ลูอิส แฮมิลตันออกล่าความสำเร็จ คว้าแชมป์โลก F1 ครั้งแรกในปี 2008 ด้วยวัยเพียง 23 ปี

ถือเป้นแชมป์ที่อายุน้อยที่สุด ต่อมาในปี 2014 ลูอิสสามารถค้วาแชมป์โลกได้เป็นครั้งที่ 2 และดูเหมือนว่าเป็นช่วงที่เจ้าตัวฟอร์มฮ็อตทะลุปรอท ลูอิสค้วาแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้ในปีถัดมา และคว้าแชมป์โลกได้ 4 ปีติดต่อกัน 2017 , 2018 ,2019 และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 มาครองในปีล่าสุด 2021

ทำให้ลูอิส แฮมิลตัน คว้าแชมป์เทียบเท่ากับตำนานนักแข่งรถชาวเยอนมัน มิเชล ชูมัคเกอร์ และดูเหมือนเส้นทางของลูอิสด้วยวัย 35 ปี จะยังไม่สิ้นสุดณตอนนี้อย่างแน่นอน การจะเป็นแชมป์แข่งรถ F1 ต้องมีหลายปัจจัยเกิดขึ้นพร้อมกัน ประการแรกต้องเก่งและมีความสามารถจริง ๆ ซึ่งลูอิสมีแน่น่อน

แต่จะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีรถแข่งที่ดี มีทีมงานที่เก่งกาจคอยช่วยซัพพอร์ตวางแผนเกื้อหนุนกัน และต่อให้มีหมดทุกอย่างถ้าขาดดวงเข้าไปด้วย โอกาสที่จะยืนละเลงแชมเปญบนโพเดี้ยมก็คงไม่ด้เกิดขึ้นง่าย ๆ แน่นอน

ชีวิตของลูอิส แฮมิลตันนอกจากจะอยู่ในรถ F1 แล้ว ชีวิตอนกรถก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ลูอิสเป็นแฟชั่นไอคอลตัวจริงด้วยทรงผมสุดจ๊าบ รอยสักสุดเท่ เขาสามารถเป็นดารานักแสดงคนนึงได้เลย

ตอกย้ำการเป็นไอคอลด้านความเร็ว กับการร่วมออกแบบกับสปอนเซอร์ที่ร่วมสนับสนุนลูอิสอย่างแบรนด์ TOMMY LFIGER ในแบบฉบับของตัวเขาเอง ด้วยหน้าที่การงานที่ดีทำให้ชีวิตเขาดีตามไปด้วย ลูอิสรักธรรมชาติ รักเด็ก และยังเลือกทานอาหารมังสวิรัติแทนเนื้อสัตว์ และเลิกใช้สิ่งของที่ทำมาจากหนังทั้งหมด อีกทั้งยังต่อต้านการใช้พลาสติกอีกด้วย

โลกกีฬา

ลูอิส แฮมิลตันแชมป์โลก F1 100 สนาม

การแข่งขันรถสูตรหนึ่ง F1 Russian Grand Prix 2021 ที่ประเทศรัสเซีย ลูอิส แฮมิลตันเจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย สังกัดทีม Mercedes AMG Petronas F1 Team คว้าแชมป์ในการแข่งขันมาครองด้วยการทำเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที 41.001 วินาที

เร็วกว่าคู่แข่งแย่งแชมป์โลกชาวฮอนแลนด์อย่าง แม็กซ์ เวอร์สแตปเปน (Max Verstappen) สังกัดทีม Redbull ที่จบอันดับ 2 อยู่ 53.271 วินาที และอันดับ 3 เป็นของนักแข่ง คาร์ลอส ซาอินซ์ จูเนียร์ (Carlos Sainz Jr.) สังกัดทีม Ferrari

สำหรับการแข่งขันสนามนี้ จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มหลังจากเกิดฝนตกพื้นสนามลื่น ทำให้เสียการควบคุมรถเกิดขึ้นบ่อย และเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ลูอิส แฮมิลตันขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในการแข่งรถ ขณะที่เหลือการแข่งขันเพียงแค่ 3 รอบเท่านั้น

เมื่อนักแข่งของทีม McLalen แลนโด้ นอร์ริส (Lando Norris) ซึ่งเป็นผู้นำในการแข่งขันมาโดยตลอด รถเสียหลักไถลออกจากสนาม เปิดช่องให้แฮมิลตันแซงขึ้นนำ และคว้าแชมป์ของรายการไปในที่สุด และผลการเป็นแชมป์สนามนี้ ทำให้แฮมิลตันสร้างประวัติศาสตร์นักแข่งรถคนแรกของโลกที่คว้าชัยชนะครบ 100 ครั้ง ในการแข่งขันรถ F1

ตลอดระยะเวลา 14 ปีในวงการแข่งรถ F1 ลูอิส แฮมิลตันแข่งขันไปทั้งหมด 281 สนาม คว้าแชมป์ 100 สนาม โดยเป็นกาคว้าแชมป์ที่ประเทศบ้านเกิดไปถึง 8 สมัย ออกสตาร์ทจากโพล โพซิชั่นไป 101 ครั้ง ขึ้นโพเดี้ยมรับรางวัลไปทั้งหมด 176 ครั้ง

ลูอิส แฮมิลตันได้รับพระราชทานยศ

หลังจากที่ลูอิส แฮมิลตัน ต้องพบกับความผิดหวังพลาดการคว้าแชมป์โลก F1 สมัยที่ 8 ไปอย่างน่ากังขา เนื่องจากมีการใช้รถเซฟตี้คาร์เข้ามาเคลียร์สนามจากเหตุการอุบัติเหตุในช่วง 6 รอบสุดท้าย และกองอำนวยการได้มีการประกาศให้มีรถแข่งบางคันสามารถขับแซงรถเซฟตี้คาร์ได้

จึงทำให้นักแข่งแม็กซ์ เวอร์สแตปเปน ที่เข้าพิทเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่มีความได้เปรียบ ทำให้แฮมิลตันที่เป็นฝ่ายขึ้นนำรั้งจ่าฝูงในการแข่งขันมาโดยตลอด ถูกแม็กซ์ เวอร์สแตปเปน นักขับคู่แข่งที่ขับเขี้ยวแย่งชิงบัลลังก์โลกกันอยู่ในขณะนั้น ขับแซงขึ้นนำในรอบสุดท้าย และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 คว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครอง

จากการเสียแชมป์ในสนามสุดท้ายที่กรุงอาบูดาบี ในวงการแข่งรถ F1 เกิดมีการถกเถียงกันถึงประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างวงกว้าง เพราะดูเหมือนว่าผู้อำนวยการแข่งขันในครั้งนี้ได้ตัดสินเลือกเลือกปฏิบัติแก่นักแข่งรถ ที่สร้างความได้เปรียบและเสียเปรียบในการแข่งรถอย่างไม่ยุติธรรม

ภายหลังจากจบการแข่งขัน ลูอิส แฮมิลตันเดินทางกลับมายังบ้านเกิดประเทศอังกฤษ พร้อมกับได้เข้าพิธีรับพระราชทานยศอัศวินจากเจ้าฟ้าชายชาร์ล ที่พระราชวังวินเซอร์ ได้รับตำแหน่งยศหน้านามเป็น ท่านเซอร์ ตามรอยนักแข่งในตำนานของเมืองผู้ดีอย่าง แจ็กกี้ สจ๊วร์ต และสเตอร์ลิ่ง มอสส์

ป.คอกีฬา