ข่าวกีฬาฟุตบอล

เว็บไซต์กีฬาอันดับ 1 อัพเดทข่าวสารวงการกีฬา ฟุตบอล ผลบอล ฟุตบอลวันนี้ ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก กัลโช่ บุนเดสลีกา ลา ลีกา ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ยูฟ่าคัพ ไทยลีก เจลีก

ย่อยยับคาบ้าน ความพ่ายแพ้ของแมนยู ที่อดสูที่สุดในศึกแดงเดือด

ย่อยยับคาบ้าน

ย่อยยับคาบ้าน กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแมนยู ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด

ย่อยยับคาบ้าน ได้เกิดขึ้นกับทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งหนึ่งแล้ว ในศึกวันแดงเดือด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ต. ที่ผ่านมา โดยเป็นการพ่ายแพ้ ให้กับทีมคู่แค้น ในตำนานอย่าง หงส์ดง ลิเวอร์พูล 

โดยตั้งแต่ที่ เคยชมการถ่ายทอดสด ในนัดแดงเดือดมา ก็ยังไม่เคยพบว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะแพ้คาบ้าน แบบที่เรียกว่า ย่อยยับ ดับอนาถ ขนาดนี้มาก่อน

กับผลการแข่งขัน 0-5 ผู้เล่นถูกไล่ออกไป 1 ใบเหลืองอีกเพียบ แถมยังได้เห็น อากัปกริยา ที่ไม่พึงประสงค์ ของนักเตะซุปเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงลิ่วอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และนี่คือเหตุผล ที่เราควรจะมา พิจารณาว่า เกิดอะไรขึ้น กับพลพรรค ผีแดง ในศึกวันแดงเดือดที่ผ่านมา นัดล่าสุดนี้ ข่าวกีฬาฟุตบอล

ย่อยยับคาบ้าน
ย่อยยับคาบ้าน

ย่อยยับคาบ้าน การจัดผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ใช้สูตรการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม แม้ท่านผู้ชม ทางบ้านอย่างผม ที่ไม่เคยเรียนจบโค้ช ก็ยังอยากจะเห็นเขาปรับระบบเป็น 3-5-2 เพื่อใส่เซ็นเตอร์แบ็ค เพิ่มอีก 1 ตัว เผื่อเกมส์รับ จะแข็งแกร่งขึ้นบ้าง เพราะเมื่อทีมต้องปราศจาก ราฟาแอล วาราน เกมส์รับที่แย่อยู่แล้ว ก็ยิ่งห่วยแตกมากกว่าเดิม พร้อมที่จะเสียประตู อยู่ตลอดเวลา

ซึ่งสูตรการเล่น 4-2-3-1 ชุดทำศึกแดงเดือดขบวนนี้ ไม่มี ปอล ป๊อกบา เหตุเพราะความปอดแหก ด้วยต้องการใช้คู่หู ‘แม็คเฟร็ด’ เป็นตัวรับ 2 คน เพื่อช่วยกันปกป้อง แผงแบ็คโฟร์ ที่อ่อนยวบยาบ

ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่มีมิดฟิลด์ ตัวรับอย่าง ฟาบินโญ่ ที่เจ็บหัวเข่า แถม เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังได้สั่งพัก โฌแอล มาติ๊ป กับ ซาดิโอ มาเน่ แบบไม่สะทกสะท้านอีกด้วย เมื่อไม่มีตัวสำคัญอย่าง ฟาบินโญ่ แบบนี้ แดนกลางของปีศาจแดง ก็น่าจะพอสู้ได้

เกมส์เพิ่งเริ่มได้ ยังไม่ทันเท่าไหร่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โดนซัดซะแล้ว

ย่อยยับคาบ้าน
ย่อยยับคาบ้าน

มันมาจากความอ่อนด้อย ของเกมส์รับนั่นแหละ เมื่อเกมส์รับมันอ่อนหัด อุดมด้วยความผิดพลาด จนเสียประตูง่ายๆ มาหลายเกมส์ติดต่อกันแล้ว แต่ก็ไม่เคย ที่จะได้รับ การแก้ไขให้ดีขึ้น จากตัวผู้จัดการทีม

ในจังหวะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ขึ้นไปเติมเกมส์รุก ตรงริมเส้นทางด้านขวา แล้วลงมาไม่ทัน จนถูกคู่แข่งย้อนทาง จนส่งผลให้   วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ต้องทิ้งตำแหน่งเซ็นเตอร์ฯ เพื่อขยับเข้ามา แทนตำแหน่ง แต่ปรากฎว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กลับไม่ยอมขยับ เข้ามาตามรูปเกมส์ ทำให้เกิดช่องว่างมหาศาล จนเสียประตูไปง่ายๆ อีกครั้ง

ถัดมาอีกแค่ ไม่กี่อึดใจ ลูกที่ 2 ก็ตามมา จากความผิดพลาดง่ายๆ คราวนี้กัปตันทีม ค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ดันปล่อยบอลตก ผ่านหน้าตัวเองไปดื้อๆ แล้วในจังหวะ ที่ตามไปแก้ไข กองหลังอีกคนอย่าง ลุค ชอว์ ก็ดันทะเร่อทะร่า วิ่งเข้ามาชน กันเองซะอย่างนั้น  เวลาผ่านไป ยังไม่ถึง 15 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเสียง่ายๆ ไปถึง 2 ประตู

ถามว่านอกจาก เกมส์รับที่เหลวแหลกแล้ว มันยังมีจุดบกพร่อง ตรงไหนอีก ที่นำมาซึ่งความยับย่อย

คุณภาพของการรับส่งบอล และทีมเวิร์คนี่แหละ คือต้นเหตุของ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวล  แมนฯ ยูไนเต็ด เสียบอลง่ายมาก เหตุเพราะรับส่งบอลกัน ไม่ค่อยแม่นยำ สักเท่าไหร่ จนต้องเสียเวลาแก้ไข

มิหนำซ้ำยัง ต่อบอลกันมากจังหวะ โดยใช่เหตุ เกมส์จึงไม่ไหลลื่น อย่างที่มันควรจะเป็น ต่อเมื่อเจอคู่แข่ง บีบเข้าหาอย่างรวดเร็ว ก็จะยิ่งเสียบอล ง่ายเข้าไปใหญ่

บ่อยครั้งที่เสียบอล กลางทางในระหว่าง การลำเลียง เมื่อ ลิเวอร์พูล ตัดบอลมาได้ พวกเขาจะโจมจู่ แบบสายฟ้าผ่าโดยพลัน  ส่วนคู่หู ‘แม็คเฟร็ด’ ที่ผู้จัดการทีม ส่งลงมาให้ ปกป้องแผงหลัง ก็ช่วยเบรคเกมส์ ของคู่แข่งไม่ได้

แบบนี้เอา ปอล ป๊อกบา ลงมาเป็นตัวจริง ตั้งแต่แรกไม่ดีกว่าหรือ  หงส์แดง บุกมาแต่ละครั้ง จึงเข้าถึงพื้นที่สุดท้าย ไปจี้จุดอ่อนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตลอด

สิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยมองเห็นได้ อย่างคมชัดคือ ระบบการเล่น และทีมเวิร์ค

โซลชา คงมีความมั่นใจ ในกึ๋นของตัวเอง แบบเต็มประดา เกินกว่าที่จะเลียนแบบ กุนซือปีศาจแดง คนเก่าอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยัดเยียดความปราชัยให้ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ

ตอนนั้นฟอร์มการเล่นของ โม ซาล่าห์ ร้อนแรง แบบเกินห้ามใจ  เมื่อไม่ยอมหา วิธีจัดการกับ ตัวอันตราย พลางปล่อยให้เขาเล่นสบายๆ ตัวเองก็ถูกลงโทษ อย่างสาสมด้วย แฮตทริคของ  โมฮาเหม็ด ซอเลาะห์

ย่อยยับคาบ้าน
ย่อยยับคาบ้าน

ตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือ 10 คน ขณะตามหลัง 5-0 ลิเวอร์พูล ได้ลดเกมส์รุกแล้ว 

เข้าใจว่าคง กลัวเจ็บกลัวเดี้ยง กันด้วยนั่นแหละ เพราะเมื่อเจ้าถิ่นสู้ไม่ได้ ก็หันมาไล่เตะ คู่แข่งบนความหงุดหงิด ลิเวอร์พูล จึงเล่นแบบประคองตัว เคาะบอลไป เคาะบอลมา จนหมดเวลา เพื่อถนอมสุขภาพ เอาไว้ดีกว่า

ถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหลังจ่าฝูงอยู่ 8 แต้มแล้ว สภาพแบบนี้ คงหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ ในทางปฏิบัติเรียบร้อย หลังจากเก็บได้แค่ แต้มเดียวจาก 4 เกมส์ล่าสุด

ย้ำว่าแค่ 1 แต้มจาก 4 เกมส์ล่าสุด อันมาจากการ วางแผนที่ย่ำแย่ การแก้เกมส์ และฟอร์มการเล่น ที่ย่ำแย่ด้วย  ถ้าหากว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงคุมทีม อยู่ถึงวันเสาร์นี้ ที่จะบุกไปเยือน สเปอร์ส ก็แสดงว่า เจ้าของทีมกับผู้บริหาร หูหนวกตาบอด ชนิดกู่ไม่กลับไปแล้ว

เพราะมันชัดเจน จนไม่รู้จะ ชัดเจนยังไงแล้ว ว่า โซลชา มือไม่ถึง และไม่ใช่ผู้กอบกู้ อย่างที่พยายาม มองโลกให้สวยๆ แล้วอวยกันไปเองหรอก ถ้าไม่รีบปลดออก มีโอกาสสูง ที่จะหลุด ท็อปโฟร์ โดยไม่ประสบ ความสำเร็จใดๆ ไปอีกหนึ่งฤดูกาล